วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

น้ำมะนาว รักษาสิวด้วย"วิธีธรรมชาติ"

น้ำมะนาว รักษาสิวแบบธรรมชาติ
น้ำมะนาว รักษาสิวด้วย"วิธีธรรมชาติ"

ใช้น้ำมะนาวเพื่อบรรเทา / รักษาสิว เป็นวิธีธรรมชาติในการรักษาสิวที่ง่ายและปลอดภัย

สามารถใช้ได้ทั้งทา บนผิวและดื่ม ทั้งสองวิธีจะช่วยลดการเกิดสิวและรอยแผลเป็นทั้งภายนอกและภายใน

ได้ มีทดลองใช้น้ำมะนาวทั้งสองวิธีแล้ว (ทาโดยตรงบนผิวหน้า และดื่ม) และพบว่าภายใน 3 สัปดาห์ สิวก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าการผสมน้ำมะนาวกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน จะช่วยให้ผลเร็วขึ้น

ทาน้ำมะนาวโดยตรงบนสิว

น้ำ มะนาวมีกรดผล ไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ ตายแล้ว ยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใสด้วย

สูตร น้ำมะนาว / วิธีใช้

1.ล้างหน้าให้สะอาด

2.บีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก ใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก อาจผสมน้ำหากรู้สึกว่าแสบเกินไป

3.ป้ายน้ำมะนาวลงบนสิว สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวหนอง

4.ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก ล้างออกตอนเช้า และทาอีกครั้งก่อนเมคอัพ (หากคุณต้องใช้เมคอัพ)

5.หาก รู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้วก็ตาม ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

วิธีการนี้ใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผล

ดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาสิว

สามารถ ใช้วิธีการดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาและทำความสะอาดภายในร่างกาย หรือขจัดสารพิษออกจากตับ และเพื่อให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำมะนาวนั้นเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ ที่ช่วยให้กระชุ่มกระชวย ดื่มง่าย และทำได้ง่าย

ความจริงแล้ว การ รักษาสิวด้วยการดื่มน้ำมะนาวนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ที่ทุกคนควรดื่ม (สำหรับคนที่ไม่แพ้มะนาว) ประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านั้นคือ :

-ขจัดกรด ต่าง ๆ ที่ตกค้างออกไป เพราะน้ำมะนาวมีแร่ธาตุต่าง ๆ (วิตามินซี, โพแทสเซียม)

-บรรเทาอาการท้องผูก

-ทำความสะอาดตับด้วยกรดซิ ตริก และสร้างเอนไซม์เพื่อขจัดสารพิษในเลือด

-ช่วยกระบวนการย่อย อาหาร

-กำจัดนิ่วในไต และตับอ่อน

การรักษาสิวโดยการดื่มน้ำ มะนาว สูตร 1

1.บีบน้ำมะนาว 1 ผลลงในแก้ว

2.เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้วยละ 8 ออนซ์)

3.ดื่มน้ำมะนาวที่ผสมนี้ได้ทั้งวัน

การ รักษาสิวโดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 2

1.บีบน้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำอุ่นที่ต้มแล้ว 1 ถ้วย (8 ออนซ์)

2.ดื่มเป็นสิ่งแรกของวัน ในตอนเช้า

3.หลังจากดื่มน้ำมะนาว งดการดื่ม หรือรับประทานสิ่งใด ๆ ภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำมะนาวได้ชำระล้างร่างกาย

ด้วยความปรารถนาดีจาก

ร้านขายที่กดสิว

http://acneextractor.lnwshop.com/

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

อุปกรณ์ที่ใช้ในการกดสิว มีอะไรกันบ้าง?

วันนี้มีวีิดีโอดีๆ มาแนะนำ สำหรับการเตรียม อุปกรณ์ที่ใช้ในการกดสิว นั้นมีอะไรกันบ้าง ไปดูวีดีโอกันเลย

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

รักษาสิวอุดตันด้วยตัวเองแบบง่ายๆ

รักษาสิวอุดตัน

สิวอุดตัน

สิวอุดตัน เป็นสิวที่พบได้บ่อยมากกว่า 70% ของปัญหาสิว และพบได้ทุกเพศทุกวัย โดยส่วนมากจะพบในกลุ่มของวัยรุ่น ซึ่งสิวอุดตันที่พบบ่อยมากคือบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังและลำตัว โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจน และแบ่งเป็นชนิดหัวปิดสีดำและหัวปิดสีขาว

สาเหตุการเกิดสิว

  1. ต่อมไขมันสร้างไขมันมากเกินไป เลยเกิดจากอุดตันในท่อไขมันที่ระบายไขมันออกสู่ผิวหนังด้านนอก
  2. ปัญหาผิวแพ้ง่าย มักพบเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้บ่อยเช่นกัน
  3. เกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด หรือผิดวิธี
  4. เกิดจากการใช้เครื่องสำอาง แล้วเกิดอาการแพ้
  5. สิวจากสเตียรอยด์ หรือรับประทานยา Prednislone เป็นประจำ
  6. เกิดจากภาวะความเครียด
  7. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ในช่วงใกล้หมดประจำเดือน

รักษาสิวอุดตันด้วยตัวเองแบบง่ายๆ

  1. รักษาสิวอุดตัน ด้วยตนเองวิธีแรก คือ อย่าปล่อยให้ผิวหน้าสกปรกเป็นเวลานานๆ
  2. เลี่ยงการเช็ดหน้าหรือนวดหน้าแรงจนเกินไป
  3. อย่าใช้ผ้าเช็ดหน้ากดทับบริเวณที่สิวอักเสบ
  4. ล้าง หน้าวันละ 2 ครั้งตามปกติ ไม่จำเป็นต้องล้างบ่อยจนเกินไป เพราะสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรก แต่สำหรับในคนที่หน้ามันมาก อาจล้างเพิ่มระหว่างวันด้วยน้ำเปล่า ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการเสียสมดุลของค่า pH บนผิวหน้า ยกเว้น ช่วงที่เสร็จจากการออกกำลังกาย หรือช่วงที่คิดว่าหน้าเราสกปรกมากจริงๆ
  5. เวลาล้างหน้าไม่ควรถูใบหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบได้
  6. ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าควรเป็นสบู่เหลวอ่อนๆ หรือคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน และสครับหน้าเบาๆ
  7. ถ้าหากใช้รองพื้นหรือใช้เครื่องสำอาง ควรล้างเครื่องสำอางด้วย Cleansing Remover และล้างหน้าให้สะอาด
  8. ควร เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีสามารถขจัดแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว หรือที่มีส่วนผสม ของสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ที่เหมาะกับสภาพผิว
  9. ระหว่างเป็นสิว ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ใส่ผมหรือเครื่องสำอางที่มีความเหนียวเหนอะหนะ เพราะอาจมีตกค้างอยู่แถวๆไรผมได้ ซึ่งอาจทำให้เป็นสิวได้
  10. ควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ชนิดออยล์ฟรีทาบนใบหน้า
  11. หากเราเส้นผมมัน ก็ควรสระผมให้สะอาด เพราะสิวอุดตันอาจเกิดขึ้นได้ตามบริเวณไรผม
  12. หลีก เลี่ยงเครื่องสำอางที่แรงเกินไปหรือมีส่วนผสมของน้ำหอม น้ำมัน หรือฮอร์โมน โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่ระบุว่า ไม่เป็นตัวก่อสิว “Non-comedo genic” คือไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน
  13. ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีใดๆก่อนเข้านอน
  14. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับปลอกหมอนหรือที่นอน
  15. ผัก ผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ หากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ระบบฮอร์โมนทำงานไม่สมดุล และมีปริมาณสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น
  16. พยายามหลีกเลี่ยง ความเครียด เพราะการเครียดมากๆจะทำให้ต่อมไขมันทำงานหนัก อาจลดความเครียด ด้วยการนั่งสมาธิ หรือ การฝึกการหายใจ สร้างอารมณ์ขำขัน ทำให้เรามีความสุข ปราศจากความเครียด ซึ่งความเครียดเป็นสาเหตุของสิว
  17. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
  18. ดื่มน้ำให้มากๆในแต่ละวัน เพราะน้ำจะช่วยล้างสารพิษในร่างกาย
  19. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความอับชื้นและสถานที่ที่มีมลพิษมากๆ
  20. อบไอน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเปิดรูขุมขนให้ไอน้ำเข้าไปทำความสะอาด
  21. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าให้น้อยที่สุด เพราะฝ่ามือมีทั้งความสกปรก และแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดสิว
  22. ควร ใช้หลังฝ่ามือลูบแทน เพราะหลังฝ่ามือเป็นบริเวณที่เราไม่ยุ่งเกี่ยวมากที่สุด จึงเป็นบริเวณที่ค่อนข้างสะอาด แต่เราควรล้างมือให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ
  23. ห้ามบีบหรือกดสิวด้วยตัวเอง เพราะหากทำผิดวิธีมักจะก่อให้เกิดแผลและหลุมสิวได้ ซึ่งการบีบจะทำให้เกิดการแพร่กระจายของสิว และยังเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวอักเสบด้วย
  24. หากหน้าเรามันมากๆ ควรใช้กระดาษซับหน้ามัน ซึ่งเป็นวิธีช่วยลดความมันบนใบหน้า แต่ก็ไม่ซับทั้งวันจะดูไม่ดีและเสียนิสัย
  25. ควรงดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง (หรือรับประทานแต่แต่พอดี) เพราะเป็นสาเหตุอีกประการของการเกิดสิว
  26. รับ ประทานผักผลไม้ น้ำผลไม้เป็นประจำ การที่เรากินอาหารจำพวกผัก จะทำให้เราสามารถล้างพิษออกจากร่างกายได้ และยังมีวิตามินต่างๆ ซึ่งยังช่วยทำให้เราร่างกายแข็งแรงอีกด้วย ลดไขมันไปในตัว
  27. เลือกใช้กันแดดที่ค่า SPF 15 เพื่อป้องกันความมันของเนื้อครีม
  28. ใช้ผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว และบำรุงผิวอาทิตย์ละครั้ง
  29. หาก ใช้วิธีต่างๆ ไม่ได้ผล ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุด เนื่องจากสิวอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือ ฮอร์โมน ซึ่งการปรึกษาแพทย์จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ควรทำ ซึ่งปัจจุบัน ยังมีคลินิกรักษาหน้าเปิดอยู่ทั่วไป
  30. ใช้เปลือกส้มหรือเปลือกมะนาว ที่สับละเอียด ผสมโยเกิร์ต แล้วนำไปพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก จะสามารถช่วยกำจัดสิวอุดตันออกไปจากใบหน้าได้
  31. ใช้น้ำ ผึ้งพอกหน้าสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ก่อนพอกควรล้างมือให้สะอาด ขณะที่พอกให้ใช้มือนวดหน้าวนไปเรื่อยๆสัก 3 นาที ก็สามารถช่วยเรื่องสิวอุดตันได้อีกทางหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://frynn.com

วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

วิธีดูแลผิวหน้าหลังกดสิว บีบสิวมา ป้องกันการเกิดรอยดำและแผลเป็นจากสิว

เชื่อได้เลยว่าคนเป็นสิวทุกคนต้องได้มีโอกาส บีบสิวหรือกดสิวที่หน้ามา แล้วอย่างแน่นอน จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล หรือบางคนบอกไม่เคยกดเองแต่ก็อาจเคยไปกดตามคลินิกรักษาสิวต่างๆมาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าใครได้ไปใช้บริการต้องโดนจับกดสิวแทบทุกราย


วิธีดูแลผิวหน้าหลังการกดสิว

    แน่นอนครับ เมื่อเรากดสิวกันเสร็จแล้วย่อมเกิดร่องรอยอารยธรรมขึ้นที่หน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หน้าบวมบ้าง เป็นรอยแดงบ้าง จุดด่างดำบ้าง หรือบางทีกดสิวไม่ได้ก็อาจทำให้เป็นแผลเป็น เกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมาได้เหมือนกัน Acnedefend ได้ เล็งเห็นถึงปัญหาหลังการกดสิวนี้ วันนี้ก็เลยมีวิธีดูและผิวหน้าหลังกดสิว บีบสิวดีๆมาแนะนำกันครับ ว่าต้องทำยังไงหน้าเราถึงจะกลับมาดีได้เหมือนเดิม

ลดสิวบวมด้วยน้ำแข็ง

ถ้าบวมมากน้ำแข็งช่วยได้นะ


    ในกรณีที่เพิ่งกดสิวมาใหม่ อาจเกิดอาการบวม แดง บริเวณสิวที่ถูกกดได้ ถ้ารู้สึกว่ามันบวมมากเกินไปก็ให้เอาน้ำแข็งมาประคบเบาๆที่หน้าเพื่อลดอาการ บวมที่หน้าได้ ประคบไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายบวม


ล้างหน้าลดการอักเสบของสิว

ล้างหน้าให้เบามือที่สุด


    ปกติคนเป็นสิวก็ไม่ควรล้างหน้าแรงๆอยู่แล้ว เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้สิวอักเสบได้ง่าย หลังจากกดสิวก็เช่นกัน พยายามล้างหน้าให้เบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช็ดหน้าก็ให้เช็ดเบาๆ ค่อยๆทำไปอย่างใจเย็น แผลจากการกดสิวจะได้หายเร็วๆ แถมยังช่วยป้องกันการเกิดสิวซ้ำซ้อนที่ชอบขึ้นมาตรงที่เดิมได้อีกด้วย

Hiruscar Postacne ลดรอยแผลเป็นจากสิว

ทาครีมลดรอยแดง จุดด่างดำจากสิว


    หลังจากที่หน้าเราเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ คือหน้าไม่บวม ไม่แดง แผลจากการกดสิวเริ่มแห้งแล้ว เราก็สามารถหาครีมลดรอยดำ รอยแดงจากสิวมาทาเพื่อช่วยให้ริ้วรอยจากการกดสิวหายเร็วขึ้นกว่าเดิม คือถามว่าครีมเหล่านี้จำเป็นต้องทาหรือเปล่า ขอตอบว่าไม่จำเป็น เพราะถ้าเราปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวรอยแดงเหล่านั้นก็จะหายไปเองตามธรรมชาติ แต่การทาครีมลดรอยก็เพื่อเร่งให้รอยสิวหายเร็วขึ้นก็เท่านั้นเอง ใครต้องการความเร่งด่วนก็แนะนำให้หาซื้อมาใช้ แต่ถ้าใครไม่รู้ว่าจะใช้ครีมตัวไหนดี ผมก็มีข้อมูลครีมลดรอยดีๆมาแนะนำกันครับ เลือกใช้ได้ตามชอบใจเลย แนะนำ 7 ครีมลดรอยสิว รอยแดง จุดด่างดำจากสิว ตัวไหนดี ตัวไหนโดน เลือกเอาครับ


พอกหน้าลดรอยสิว

พอกหน้าก็ช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้นนะ


    การพอกหน้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้รอยสิวที่เกิดจากการกดสิวหายรวดเร็ว ขึ้น จริงแล้วสูตรการพอกหน้ามีมากมายหลายสูตร หากให้เขียนถึงก็คงเขียนไม่หมด ก็เลยขอแนะนำสูตรพอกหน้าที่คิดว่าดีที่สุดในการลดรอยสิวนั่นก็คือ พอกหน้าด้วยใบบัวบก เป็นวิธีพอกหน้าแบบธรรมชาติที่ผมชอบมากๆ เพราะใบบัวบกมีสรรพคุณในเรื่องลดรอยจุดด่างดำ ช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณที่เกิดแผลให้ายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของสิวได้ดีอีกด้วย สูตรพอกหน้าลดรอยสิวด้วยใบบัวบกนี้ไม่ควรทำบ่อย ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ ส่วนวิธีทำเป็นยังไง ติดตามอ่านได้ที่บทความนี้ครับ สูตรจัดการสิวหนอง รอยสิว จุดด่างดำด้วยใบบัวบกสมุนไพรธรรมชาติ


ยาแต้มสิวอักเสบ Clinda-M

ทาครีมแต้มสิวอักเสบเมื่อกดสิวออกไม่หมด


    การกดสิวอาจเกิดข้อผิดพลาดได้เสมอ หากเรากดสิวพลาด กดออกไม่หมด สิวเม็ดนั้นก็จะเกิดการอักเสบ กลายเป็นสิวอักเสบ สิวหัวหนองได้ง่าย สิ่งที่เราควรทำเมื่อเกิดเหตุการนี้ก็คือ เราควรป้องกันไม่ให้สิวอักเสบเม็ดนั้นอักเสบไปมากกว่านี้ สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือหายาแต้มสิวอักเสบมาทา เช่น Clindalin gel , Clinda M , Smooth e acne hydrogel , ครีมแต้มสิว Akneles , Eryacne Erythromycin Gel หรือครีมแต้มสิวที่พอจะหาได้มาทาเพื่อลดการอักเสบลง และพยายามอย่าทำอะไรเพื่อไปกระตุ้นให้สิวอักเสบเพิ่มขึ้น เช่น นอนดึก การล้างหน้าแรง การจับสิวบ่อยๆ หรือพยายามไปบีบมันซ้ำ เพราะถ้าบีบไม่ออกแล้วล่ะก็คราวนี้สิวคงอักเสบเม็ดโต แก้ไขยากกว่าเดิมอีก และเมื่อสิวอักเสบยุบลง เราค่อยกดสิวออกอีกครั้ง ก็จะช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นจากสิวได้เป็นอย่างดี

    นี่ก็เป็นวิธีดูแลผิวหน้าหลังการกดสิวที่ อยากแนะนำในวันนี้ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนเป็นสิวทุกคนนะครับ การกดสิวจริงๆก็เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งเราก็จำเป็นต้องกดมันออกมา ไม่งั้นมันก็ไม่หายไปไหน มันก็จะอุดตันใต้ผิวไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่กดสิวแบบพร่ำเพื่อ กดสิวที่เป็นทุกเม็ดอันนี้ก็ไม่ไหว กดผิดชีวิตเปลี่ยนหน้าอาจเป็นหลุมสิวแบบผมได้อันนี้ก็ต้องระวังเอาไว้ครับ




ขอขอบคุณที่มาจาก  บล็อก acnedefend.blogspot.com


ด้วยความปรารถนาดีจาก

ร้านขายที่กดสิว

http://acneextractor.lnwshop.com/

วิธีทำให้ผิวขาวหน้าใส ไร้สิว ด้วยสมุนไพรไทย

วิธีทำให้ผิวขาวหน้าใส ด้วยสมุนไพรไทย

ผิวขาว หน้าใส ย่อมเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ปรารถนา ยอมเสียเงินจ่ายไปกับเครื่องสำอางสารพัดเพียงเพื่อต้องการเป็นเจ้าของผิวขาว สวยใส แต่ผลที่ได้รับกลับมาอาจไม่เป็นดั่งที่หวังไว้ อาจเกิดผื่นแพ้ รอยแดงคล้ำ จากเครื่องสำอางราคาแพงเหล่านั้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ที่จริงแล้วคุณไม้ต้องสิ้นเปลืองเงินทองไปกับผลิตภัณฑ์ที่ยกสรรพคุณว่าเป็น สารสกัดจากธรรมชาติเหล่านั้นเลย เพราะวันนี้เรามีสูตรวิธีทำให้ผิวขาวสวยด้วยสมุนไพรมาฝากคุณผู้หญิงทั้งหลายค่ะ มีด้วยกันหลายสูตร อ่านแล้วนำไปทำดูนะค่ะ

ว่านหางจระเข้ : ช่วยให้ใบหน้าสวยเปล่งปลั่ง
ว่านหางจระเข้จะช่วยให้ใบหน้าคุณสวยเปล่งปลั่งได้อย่างไรบ้าง
1. สามารถรักษาผิวไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือผิวที่ถูกแสงแดดเผาไหม้จนเกรียมได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว ว่านหางจระเข้นี้จัดเป็นยาเย็น ส่วนมากใช้แล้วจะรู้สึกเย็นสบายบริเวณผิวหนังที่แสบร้อนจากการเผาไหม้
วิธีใช้ นำว่านหางจระเข้สักก้านหนึ่งเลือกก้านที่แก่ ๆ สักหน่อย ล้างน้ำให้สะอาดฝานเอาเปลือกออก ล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้งอย่าให้มีเมือกสีเหลือง ๆ ติดอยู่ เพราะอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ ให้ใช้แต่วุ้นสีขาวเอาไปทา หรือถ้าเป็นแผลจากน้ำร้อนลวกและไฟไหม้ ก็ฝานวุ้นว่านหางจระเข้ไปวางทับที่ปากแผล

2. สามารถช่วยลดอาการที่เกิดจากผื่นคันที่มีสาเหตุมาจากการแพ้สารเคมีต่าง ๆ ใครที่ผ่านการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีเยอะกัดผิวหน้าจนแดงเป็นปื้น หันมาใช้ว่านหางจระเข้ ช่วยรักษาดีกว่า จะได้ฟื้นฟูสภาพผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งเหมือนเดิม
วิธีใช้ เช่นเดียวกับการรักษาแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

3. ลบรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวและฝ้าบนใบหน้า หลายคนที่เจอกับปัญหานี้ ก็ลองหันมาใช้ว่านหางจระเข้รักษาดู ในกลุ่มวัยรุ่นมักจะเจอปัญหารอยแผลเป็นจากสิว ใบหน้าเป็นจุดด่างดำ แต่ขอแจ้งให้ทราบนิดหนึ่งว่าอย่านำว่านหางจระเข้ไปใช้รักษาสิว เพราะตัวมันเองไม่มีสรรพคุณเช่นนั้น แต่ในกรณีที่เป็นสิวที่มีหนอง หัวใหญ่ก็สามารถใช้แหะที่หัวสิวนั้นได้ เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบได้ ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ วัยทำงานขึ้นมาหน่อยก็มักจะเจอปัญหาใบหน้าเป็นฝ้า จุดด่างดำ เพราะอายุมากขึ้น

ว่านหางจระเข้เจลพอกหน้า
สรรพคุณ บำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุดด่างดำ รักษาสิว
วิธีทำ เลือกใบจากต้นว่านหางจระเข้ที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยเลือกใบล่างสุดซึ่งจะอวบโต มีวุ้นมาก นำมาแช่น้ำเพื่อล้างยางเหลืองๆ ออกให้หมด (ยาง เหลืองมีฤทธิ์ระคายเคืองผิว ทำให้แสบร้อน เป็นผื่นแดง) จากนั้นปอกเปลือกออก แล้วเอาวุ้นที่ได้ล้างน้ำให้สะอาดอีกทีหนึ่ง นำวุ้นไปปั่นหรือใช้มือขยำ ก็จะได้เจลว่าน หางจระเข้ การใช้ว่านหางจระเข้สดได้ผลดีกว่าผลิตภัณฑ์แปรรูป ซึ่งจะมีปัญหาการคงตัวเมื่อถูกความร้อน
วิธีใช้ ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง แล้วใช้เจลพอกทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตาและรอบปาก ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก สูตรนี้เหมาะสำหรับคนผิวมัน สำหรับคนผิวแห้งไม่ควรใช้ว่านหางจระเข้เดี่ยว ๆ ควรเติมน้ำมันมะกอกกับไข่แดง ตีให้เข้ากัน แล้วจึงพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้ว่านหางจระเข้กับสิวหัวหนอง เพราะฟิล์มจากว่านจะทำให้สิวหายช้า
                     อาจทดลองทาวุ้นบริเวณท้องแขนดูก่อน หากมีผื่นแดงหรือคันไม่ควรใช้ทาหน้า


มะขาม : ช่วยแก้ไขปัญหาผิวแห้งกระด้างเป็นขุย
มะขามเป็นความงามจากก้นครัวอีกชนิดหนึ่งที่ใช้กันต่อเนื่องมายาวนานบรรดา สุภาพสตรีทั้งหลายในยุคเก่าคุ้นเคยกันมากกับการนำมะขามมาใช้อาบน้ำ-ล้างหน้า แทนการใช้สบู่หรือครีมล้างหน้า และครีมอาบน้ำ จะช่วยให้ผิวหนังไม่แห้ง แสบ หรือคัน

คนที่มีปัญหาผิวแห้ง กระด้าง ขาดความชุ่มชื้น ดูแล้วไร้ชีวิตชีวา ถ้าหันมาใช้มะขามเปียกประมาณ 1 กำมือ ใช้ถูเนื้อตัวร่างกาย ทำความสะอาดผิวหน้าทุกวัน ไม่นานจะเห็นผลทันทีเลยว่าผิวที่เคยมีปัญหามาตลอดนั้นจะนุ่ม ผิวไม่แห้งเนื้อตัวไม่ตึง ไม่คัน เห็นได้ว่าผิวพรรณมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อเลย หรือท่านที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นหรือช่วงหน้าหนาวแล้ว ยิ่งน่าจะหันมาใช้มะขามเปียกแทนการใช้สบู่ แล้วคุณจะพบว่าหน้าหนาวนี้ผิวคุณจะสวยตลอดฤดูกาลนั้นทีเดียว พออาบน้ำเสร็จก็อาจจะใช้ขมิ้นลูบไล้ผิวกาย ผิวหน้าเพิ่มความสวยอีกดีกรียิ่งดีใหญ่

หรือถ้าอยากจะทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ก็ให้ใช้มะขามเปียกแช่น้ำให้เหนียว ๆ หน่อยเอามาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเปล่า คุณจะพบว่าผิวของคุณสะอาดขึ้นอย่างมากทีเดียว

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า ก็ใช้มะขามเปียกนี้รักษาได้ วิธีใช้ก็คือ เอามะขามเปียกแช่น้ำพอเหนียว แล้วเอาทั้งกากและเนื้อถูบริเวณที่เป็นฝ้าเบา ๆให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก นอกจากนี้ยังมีสูตรการทำครีมมะขามใช้เอง สามารถใช้แทนสบู่ได้มาฝากอีกด้วย

สบู่ครีมมะขามเปียก
ส่วนผสม
1. มะขามเปียก
2. นมสด
3. น้ำผึ้ง
วิธีทำ
1. เอามะขามเปียกประมาณ 2-3 ฝัก แกะเอาใยออกให้หมด
2. เอามะขามเปียกไปคั้นรวมกับนมสด 6 ช้อนแกง คั้นให้ข้นจนได้ที เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
3. นำน้ำผึ้งผสมกับส่วนผสมที่ได้จากข้อสองแล้วคนให้เข้ากัน (สัดส่วนของสูตรในการทำสบู่ครีมมะขามสามารถปรับได้ตามความต้องการของสภาพผิว หน้า) เสร็จแล้วให้นำไปนึ่งให้สุก เพื่อช่วยยืดอายุสามารถเก็บไว้ได้นาน
วิธีใช้ ใช้เวลาล้างหน้าหรืออาบน้ำ ใช้ครีมทาบาง ๆ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออก
สรรพคุณ ใช้ล้างหน้าแทนสบู่ ชำระสิ่งสกปรก รักษาฝ้า ทำให้ผิวพรรณนุ่มนวล

มะขามเปียกครีมพอกหน้า
สรรพคุณ : บำรุงผิว ลบรอยเหี่ยวย่น ตีนกา
ส่วนผสม มะขามเปียก 1 กำมือ
                นมสดรสจืด 3 ช้อนโต๊ะ 
                น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ มะขามเปียกแกะเม็ดเอารกออกแล้วล้างน้ำให้สะอาดผสมกับนมแล้วขยำให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนตาละเอียด เติมน้ำผึ้งคนให้เข้ากันก็จะได้ครีมมะขามเปียก ใส่ภาชนะมีฝาปิดเก็บไว้ในตู้เย็น
วิธีใช้ ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด ทาครีมมะขามเปียกทิ้งไว้ 10 นาที ล้างด้วยน้ำสะอาด สูตรข้างต้นนี้เหมาะกับคนผิวมัน ถ้าคนผิวแห้งให้ลดมะขามเปียก เพิ่มปริมาณนมสดกับน้ำผึ้งให้มากขึ้น

ทนาคา100%



ถ้าเป็นสมุนไพรไทยที่เกี่ยวกับผิวพรรณละก็ต้องนี่เลย "ขมิ้นชัน" แต่ถ้าเป็นสมุนไพรเคล็ดลับผิวสวยของพม่าก็ต้อง "ทนาคา" หรือ "กระแจะ" ไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่เวลานี้ถูกนำมาเป็นส่วนผสม ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลากหลาย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า "ไม้ทนาคา" นั้น พม่าใช้ฝนกับหินผสมกับน้ำ ใช้ประทินผิวมาแต่โบราณ จนมีสำนวนเปรียบเทียบว่า "ผิวพม่านัยน์ตาแขก"ผิวสาวพม่าส่วนใหญ่จึงสวย เนียน และผิวค่อนข้างละเอียด เนื้อไม้ทนาคา ซึ่งเป็นสมุนไพรที่พบได้มาก จากทางฝั่งพม่า เมื่อตากแห้งสนิทและนำมาบดผงแล้วสามารถนำมาผสมทำครีมพอกหน้าได้อย่างวิเศษ
สามารถผสมกับ: 
*น้ำผึ้ง(สำหรับคนผิวแห้ง)
*น้ำมะขามเปียก(สำหรับผิวที่ด่างดำ)
*ขมิ้นชัน(สำหรับผิวที่มีสิว)
*นมสดรสจืด(สำหรับผิวที่ต้องการความนุ่มเนียน)
*โยเกิร์ต (สำหรับผิวที่ต้องการความนุ่มและใส)
เมื่อบดผสมจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ก็จะได้ครีมสำหรับพอกหน้าที่มีเนื้อสัมผัสไม่ถึงกับละเอียดนัก ทั้งนี้ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกเผยผิวใหม่ เนื้อครีมอุดมไปด้วยสมุนไพร ที่มีสรรพคุณช่วยประทินผิว มีกลิ่นหอมสมุนไพรธรรมชาติ (ไม่แต่งกลิ่น) และไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อผิว"
วิธีใช้ เพียงนำครีมผสมให้ข้น(ผสมครั้งต่อครั้ง ห้ามผสมทิ้งไว้) มาพอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แห้งแล้วใช้มือขัดออก ทำทุกวันก่อนอาบน้ำ แค่สัปดาห์เดียวจะรู้สึกว่าผิวหน้า ที่แห้งหยาบกร้าน กลับมาชุ่มชื้นมีน้ำมีนวล และดูเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น ส่วนริ้วรอยจากฝ้า หรือกระ ที่มีอยู่จะค่อยๆ จางลง

*** นี่คือภูมิปัญญา จากสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถแต่งเติม ความงามได้ไม่แพ้ครีมของนอก หรืออีกนัย ถ้าคุณได้ลองอาจจะดีกว่าของนอก ถูกกับผิวชาวเอเชียอย่างเรามากกว่าด้วยซ้ำค่ะ*
ข้อมูล ความมหัศจรรย์ของทนาคา จากไทยรัฐ ฉบับวันที่ 21มค.48 หน้า7

ว่านนางคำ100%



ว่านนางคำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Curcuma amada (aromatica) หัวว่านมีสีเหลืองเข้ม กลิ่นหอม เป็นสมุนไพรตัวหนึ่งของต้นตำรับความงามโบราณ มีเรื่องเล่ากันว่า "พระนางคลีโอพัตรา" ใช้ว่านนางคำเป็นตัวช่วยประทินผิวให้งดงามอยู่ตลอดเวลา ในหัวว่านนางคำมีสาร curcumin และวิตามินหลายชนิด ช่วยบำรุงผิว ป้องกันเม็ดผดผื่น ช่วยทำสะอาดผิวกาย ลดรอยตกกระและจุดด่างดำ เนียนนุ่ม รักษาผดผื่นคัน และรักษาอาการคันจากการแพ้ตามร่างกายรักษาผิวพรรณให้ดูผุดผ่องสวยงามดี รักษาโรคผิวหนัง
วิธีใช้ สำหรับผิวหน้าและผิวกาย ใช้ขัดและพอกผิวโดยผสมกับน้ำ หรือถ้าจะให้ได้ผลดี ควรผสมกับนม หรือโยเกิร์ต กับน้ำผึ้ง จะช่วยทำให้ผิวนุ่มเนียน สวยยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมดีๆ จาก:
มูลนิธิสุขภาพไทย โทร.954-3490-1

ด้วยความปรารถนาดีจาก

ร้านขายที่กดสิว

http://acneextractor.lnwshop.com/




 
  

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

กินผลไม้ช่วยรักษาสิว ลดสิว จุดด่างดำบนหน้า ทำให้หน้าใสไร้สิว

หากพูดถึงการรักษาสิวด้วยธรรมชาติแล้ว สิ่งที่คนเรานึกถึงมากที่สุดก็คือ "การรักษาสิวด้วยผลไม้" ซึ่งมีให้เลือกสรรกันมากมาย หากจะให้พูดถึงทั้งหมดก็คงจะเขียนกันไม่รู้จบ ก็เลยขอคัดผลไม้ตัวเด็ดๆที่มีคนนิยมใช้รักษาสิวมาฝากกัน รับรองว่านอกจากจะช่วยรักษาสิวได้ดีแล้ว ยังช่วยให้หน้าขาวใส เนียนเรียบได้ดีอีกด้วย


มะนาวรักษาสิว


มะนาว


หากพูดถึงผลไม้ที่ช่วยเรื่องสิว มะนาวถือเป็นผลไม้อันดับต้นๆที่คนนิยมเอามาใช้รักษาสิวกันอย่างเแพร่หลาย (จริงๆแล้วมะนาวนี่เป็นผักสวนครัวไม่ใช่หรือ? ไม่เป็นไรเนียนๆไปก็แล้วกัน) ในน้ำมะนาวจะมีสารพวก AHA อยู่หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ "กรดผลไม้" นั่นเองซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวหน้าที่ตายแล้วออกไปได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่เป็นกรดอ่อนๆคนจึงนิยมนำน้ำมะนาวมาแต้มที่หัวสิวอักเสบกัน ทำให้สิวอักเสบยุบ หรือช่วยให้หัวสิวเปิดออกมาช่วยให้เรากำจัดหัวสิวออกไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากจะใช้ทาสิวได้แล้ว ยังใช้ดื่มเพื่อช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร หรือการขับสารพิษในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น หากดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดสิวบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ประโยชน์เกินตัวขนาดนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว




มะเขือเทศ


มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่คนนิยมนำมาพอกหน้ากันมานานมาก ซึ่งในมะเขือเทศจะมีสาร Licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว มะเขือเทศเป็นกรดอ่อนๆนอกจากจะช่วยรักษาสิวอักเสบได้ดีแล้ว ยังช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าและช่วยผลัดเซลล์ผิวบนหน้าได้ดีอีกด้วย วิธีการก็คือนำมะเขือเทศไปปั่นให้ละเอียด แล้วก็จัดการพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกตามปกติ ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะช่วยให้สิวลดลง ผิวหน้าชุ่มชื้นมีน้ำมีนวลขึ้น




มะละกอ


ในมะละกอจะมีเอนไซม์ปาเปนและไคโมปาเปน ช่วยรักษาการอักเสบและช่วยการสมานแผลได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป้นสารสะกัดจากเปลือกมะละกอดิบจะช่วยให้การสมานแผลดีกว่า ทายา Solcoseryl ถึง 1 สัปดาห์ ขนาดแผลยังรักษาได้นับประสาอะไรกับการรักษาสิว โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาเรื่องหลุมสิวนี่ไม่ควรพลาด รีบเอามะละกอสุกมาปั่นให้ละเอียด แล้วจัดการพอกหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยรักษาอาการอักเสบของสิวได้เป้นอย่างดี แต่ห้ามใช้เปลือกมะละกอดิบนะครับ ยางมันเยอะเดี๋ยวมันกัดหน้าเอา




มังคุด


มังคุดเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการลดการอักเสบอยู่แล้ว เครื่องสำอางค์ในปัจจุบันก็มีมังคุดเป็นส่วนผสมหลายยี่ห้อ ดังนั้นเราสามารถใช้มังคุดมารักษาสิวได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะกับสิวอักเสบนี่ได้ผลดีนักแล วิธีทำก็เอาเปลือกมังคุดสัก 10 ลูกไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปคั้นน้ำด้วยที่คั้นออกมา จะได้น้ำสีม่วงๆก็นำไปผสมกับดินสอพลองให้พอข้นๆ จากนั้นก็นำมาแต้มหัวสิวที่กำลังอักเสบของเรา รับรองสิวอักเสบยุบในชั่วข้ามคืนเลยล่ะ ใครไม่เชื่อลองเอาสูตรนี้ไปใช้ดูไม่ผิดลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น


    การรักษาสิวด้วยผลไม้เป็น วิธีการรักษาแบบง่ายๆแต่ให้ผลดีในระยะยาว เนื่องจากการรักษาแบบธรรมชาตินี้จะไม่ค่อยมีการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย ไม่เหมือนการรักษาด้วยสารเคมี ทีพอรักษาไปนานๆเชื้อสิวก็ชอบจะดื้อยา ทำให้เราต้องใช้ยารักษาสิวกันอย่างไม่รู้จบ ลองรักษาสิวแบบธรรมชาติด้วยผลไม้ที่ แนะนำกันดู อาจจะไม่ทำให้หน้าใสไร้สิวในเร็ววัน แต่หากหายแล้วอาจจะหายเป็นสิวไปตลอดเลยก็ได้ ของอย่างนี้ไม่ลองก็ไม่รู้จริงมั๊ยครับ

ข้อมูลจาก acnedefend.blogspot.com

ด้วยความปรารถนาดีจาก ร้านขายที่กดสิว